Individual Pursuit

เป็นการแข่งขันระหว่างสองคนที่มีความคิดริเริ่มตรงกันข้ามฝั่งสนามกัน โดยมีระยะชิงชัย 4 กิโลเมตร (16 รอบ) สำหรับชนิดชาย หรือ 3 กิโลเมตร (12 รอบ) สำหรับชนิดหญิง ผู้ชนะเป็นผู้ที่ไล่จับปรปักษ์ได้ หรือปั่นครบระยะได้เร็วกว่า อินดิวิดวล เพอร์ซูต์ เป็นการแข่งสั้นๆที่อาศัยการออกแรงอย่างใหญ่โตอีกทั้งแบบแอโรบิคแล้วก็แอนแอโรบิค คุณลักษณะนี้เองทำให้นักกีฬาที่เก่งเพอร์ซูต์ชอบเก่งรถจักรยานถนนหนทางด้วย อาทิเช่น ผู้ครอบครองสถิติโลกในตอนนี้เป็น Jack Bobridge (Trek-Segafredo) จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งใช้เวลา 4 นาที 10 วินาที ซึ่งคิดเป็นความเร็วถึง 57.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตรงเวลากว่า 4 นาที แชมป์โลกคนปัจจุบันนี้เป็น Stefan Küng (BMC) จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และก็แชมป์โอลิมปิกคนปัจจุบันเป็น Sir Bradley Wiggins การสืบเสาะหาส่วนตัวเป็นการขี่จักรยานแบบทางเรื่องที่นักปั่นสองคนเริ่มการประลองจากตำแหน่งที่อยู่กับที่อยู่คนละฟากของแทร็ก งานนี้จัดขึ้นกว่า 4 กม.สำหรับเพศชายแล้วก็ 3 กิโล (1.9 ไมล์) สำหรับสตรี นักแข่งขันทั้งคู่คนออกตัวในขณะเดียวกันและก็เริ่มเดินทางเพื่อได้ระยะทางที่เร็วที่สุด … Continue reading "Individual Pursuit"

Individual Sprint หรือ Match Sprint

เป็นการแข่งขันรถจักรยานทางแบบคลาสสิค รวมทั้งเป็นเยี่ยมในแบบอย่างที่โบราณที่สุด ระยะชิงชัย 750 เมตร หรือ 3 รอบ โดยออกตัวจากที่เดียวกัน คนไหนถึงเส้นชัยก่อนชนะ ฟังดูอย่างกับว่าง่ายรวมทั้งอาศัยแต่ว่ากำลังวังชาสิ่งเดียว แต่ว่าสปรินต์เป็นการแข่งขันชิงไหวชิงพริบพอกับแข่งขันแรงขา ด้วยเหตุว่ารถจักรยานทางแตกต่างจากกรีฑาประเภทลู่อื่นๆตรงมีสาเหตุเรื่องแอโรไดนามิกส์มาเกี่ยวเนื่องด้วย คนไหนกันแน่โดนล็อกอยู่ข้างหลังล้อก็จะโดนแซงหน้าเส้นได้อย่างง่ายๆด้วยเหตุผลดังกล่าวจะไม่ค่อยมองเห็นผู้เข้าร่วมแข่งขันพุ่งตัวออกมาจากเส้นสตาร์ทให้เร็วที่สุด ในทางตรงกันข้าม นักกีฬาทั้งสองฝ่ายจะปั่นช้ามากมายรวมทั้งพากเพียรไล่บี้ให้อีกข้างปั่นนำหน้า เพื่อหวังรีบจากข้างหลังไม่ให้ทันตั้งตัว หรือให้อยู่ข้างในของทาง เพื่อจะอาศัยความชันของทางข้างนอกเพิ่มอัตรารีบหน้าเส้น หลายครั้งที่การเล่นไล่จับนี้จะช้ากระทั่งทั้งสองฝ่ายหยุดปั่นเพื่อดูเชิงศัตรู อันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดทริกแทร็กสแตนด์นั่นเอง การสปรินต์จริงๆจะเริ่มในรอบท้ายที่สุด หรือราวๆ 200 เมตรหน้าเส้น jumbo jiliสำหรับในการคัดผู้แข่งขันเข้ารอบนั้นอาศัยการปั่นจับเวลา 200 เมตรครั้งละคน (Flying Lap) ผู้ที่ปั่นได้เร็วที่สุด 16 คนจะได้เข้ารอบน็อกเอาท์ หลังจากนั้น 16 คนนี้จะจับคู่กันโดยการเอาที่ 1 แข่งขันกับที่ 16 แล้วก็ที่ 2 แข่งขันกับที่ 15 รวมทั้งไล่ลงไปเรื่อยแล้วก็ตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นต้นไป (8 คน) เมื่อจับคู่กันแล้วจะเปลี่ยนแปลงมาแข่งขันเอาชนะ 2 ใน 3 ตาแทนตาเดียว การเดิมพันกับการลุ้นโชคต่างกันในรูปแบบของการเล่นแล้วก็ผลพวง ถึงแม้ว่าการเสี่ยงดวงจะมองไม่รู้เดียงสา แม้กระนั้นถ้าเกิดมีการมอมเมามากมายๆก็อาจมีผลกระทบไม่มีความต่างไปจากการเดิมพัน … Continue reading "Individual Sprint หรือ Match Sprint"