พระแม่อุมาเทวี… เจ้าแม่อุมา หรือ ขว้างรวตี เป็นนามที่พระแม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล เป็นเทวีที่อำนาจวาสนาแล้วก็บารมีอันสูงสุด ท่านทรงประทานยศถาบรรดาศักดิ์ และก็ความยิ่งใหญ่แก่ผู้หมั่นบูชาต่อท่านอย่างสม่ำเสมอ..!!!
jumbo jili
อำนาจที่พระแม่อุมานั้น ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบเคียงได้ ท่านทรงประทานชัยเหนือศัตรู ประทานพละกำลังที่ผู้หญิง ทำลายสิ่งชั่วช้าสารเลว ตลอดจนประทานบริวารรวมทั้งอำนาจสำหรับการดูแล ท่านยังทรงประทานพรด้านความสมบูรณ์ ความอิ่มเอม ความสุขสบายสำหรับในการครองเรือน ครอบครัวที่เปี่ยมสุข ตลอดจนการคุ้มครองป้องกันผู้เชื่อถือให้ไม่เป็นอันตรายและก็ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งหมด
สล็อต
พระแม่อุมา ทรงเป็นมารดาที่ พระคเณศ… เป็นมเหสีที่ พระศิวะ พระอิศวรคนทำลายโลก 1 ใน 3 ที่ พระตรีพรหม พระแม่อุมาก็เลยเป็น 1 ใน 3 ที่พระตรีศักตำหนิ ด้วย (ตรีศักติเตียน คือ พระแม่อีกทั้งสาม เช่น พระแม่อุมา พระแม่พระลักษมี พระแม่สรัสวตี) ท่านมีวิมานสถิตในเขาไกรลาส เหมือนกันกับพระศิวะเทวดา มีเครื่องหมายประจำท่านเป็น โยนี (ฐานรองศิวลึงก์) มีทิพยรูปเป็นหญิงที่สวยงาม เปี่ยมไปด้วยความกรุณา เป็นมารดาที่ทุกๆชีวิตทั้งมวล ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแต่งตัวหลายสีสัน ประดับโดยการใช้ทองอย่างสวย
ศาสตราวุธ ที่พระแม่อุมาเทวีเป็น
- หลาวสามง่าม เป็นเครื่องหมายที่การกำจัดสิ่งเลวร้าย แล้วก็
- กระบี่ เป็นเครื่องหมายที่ความเด็ดขาด เป็นผู้ตัดสิน รวมทั้งอยู่เหนือคนอื่นสล็อตออนไลน์
พระแม่อุมาเทวี (เจ้าแม่อุมา) มีอวตารอยู่หลายปาง ปางที่สำคัญที่สุดอีก 2 ปางจากพระแม่อุมาหมายถึงปางพระแม่ทุรค้าง (ทุรกา) และก็ ปางพระแม่กาลี (เจ้าแม่กาลี) อ่านได้จากบทความตำนานพระแม่ทุรติดอยู่รวมทั้งพระแม่กาลี ในบทต่อๆไป
อีกปางหนึ่งที่ต้องการชี้แนะ แม้กระนั้นไม่ค่อยมีคนประเทศไทยรู้จัก โน่นเป็น ปางพระแม่อุมาตากี เป็นการอวตารของพระแม่อุมาเทวี ศูนย์รวมเอาพระแม่อีก 2 ท่านเข้าไว้ด้วยหมายถึงพระแม่อุมา พระแม่พระลักษมี พระแม่สรัสวดี ได้อวตารรวมเป็นร่างเดียวกัน ดังพระตรีพรหม นิยมนับถือกันในกลุ่มผู้เชื่อถือนิกายศักตำหนิ หรือนิกายที่เชื่อถือเฉพาะเทวดาสตรีทั้งยัง 3 ท่านว่ายิ่งใหญ่เหนือกว่า พรหม พระวิษณุ พระศิวะ อันเป็นเทวดาชายสูงสุดที่พราหมณ์-ฮินดู
ตำนานพระแม่อุมาเทวี
ตามตำนานโบราณพูดกันว่า “พระแม่อุมา ” นั้นเดิมทีมีต้นเหตุที่เกิดจากการที่พระศิวะใช้พระมือข้างขวาลูบคลำเบาๆที่กึ่งกลางพระอุระ พระแม่อุมาก็เลยตายขึ้นกึ่งกลางหน้าอกของพระศิวะ บ้างก็กล่าวไว้ว่าพระแม่อุมาเทวีเป็นลูกสาวของ ท้าวหิมวัต รวมทั้ง พระนางเมนกา เทวดาผู้เป็นใหญ่ที่เทือกเขาหิมาลัย แม้กระนั้นในบางหนังสือกล่าวไว้ว่าพระอุมาเป็นบุตรีของ พระความสามารถประชากรบดี และก็เป็นญาติกับ พระแม่คงคา (พี่สาวของพระแม่อุมา) พระอุมาในภาคนั้นมีนามว่า พระสตี เป็นมเหสีของ พระมุนีโลกเป็นพระศิวะ อีกภาคหนึ่ง
เรื่องราวในช่วงเวลานี้อาจจะเป็นตอนก่อนเกิดเป็นพระแม่อุมาเทวี ซึ่งได้ปรากฏเกิดเรื่องกล่าวขวัญกัน เริ่มจากความภักดีด่อพระสวามี (พระศิวะ) โดยพระนางได้ใช้อำนาจศักดิ์สิทธิ์บันดลให้ไฟเผาไหม้ตัวเอง
ซึ่งกล่าวไว้ว่า พระศิวะ ทรงอวตารลงมาในภาคของ มุนีโลก แต่ว่าก็เนื่องจากว่าท่านทรงกลายร่างอวตารลงมาในชุดนุ่มคลุมแบบปอนๆซอมซ่อ รวมทั้งมีสังวาลสวมคอเป็นลูกประคำโดยนำกระดูกมาร้อยต่อกัน ไว้ผมหนวดเครารก ถูกใจนอนตามป่าช้า ร่างกายมีกลิ่นเต่าเหม็นอับ (ไม่เหมือนกับการแบ่งภาคอื่นๆ) ดังนี้ก็เพื่อสร้างเสริมบารมี ด้วยการบำเพ็ญตน บำเพ็ญตบะ ซึ่งกาลถัดมาด้วยโชคชะตาที่สร้างเหมาะสมกันมาเมื่อก่อน ทำให้พระนางสตีมองมองเห็นรูปกายที่จริงจริงว่าพระมุนีภาพองค์นี้ก็คือ ภาคหนึ่งที่องค์พระศิวะผู้เป็นผู้ใหญ่ในสามโลก พระนางสตีก็เลยตกลงปลงใจอยู่รอรับใช้ดูแลในฐานะมเหสี ข้างพระความชำนาญประชาชนบดีไม่ได้เห็นด้วยกับความนึกคิดของพระนางสตีนัก แม้กระนั้นก็ไม่ได้กีดขวางแต่อย่างใด ก็มีความคิดที่มาได้ไม่ชอบใจในตัวของพระมุนีโลกเลย กลับแสดงความเกลียดสำหรับการปฏิบัติ อีกทั้งรูปร่าง การแต่งกายของพระมุนีโลกโดยตลอด
ข้างบรรดาราชลูกเขยต่างๆก็รอตามใจผู้เป็นพ่อตาอยู่เป็นนิจตลอดมา เว้นก็แต่ว่าพระมนีโลกผู้เป็นสวามีพระนางสตีแค่นั้น ที่ไม่เคยเข้ามาเอาอกเอาใจเลย ก็เลยเป็นเหตุผลอีกกรณี ที่ทำให้พระความชำนาญประชากรบดียิ่งไม่ชอบใจมากยิ่งกว่าเดิมขึ้นไปอีก jumboslot
จนถึงวันหนึ่งพระความสามารถประชาชนบดีอยากได้จัดพิธีการการเซ่นสรวงบูชา โดยพิธีกรรมนี้ได้ชักชวนเหล่าเทพต่างๆบนสรวงสวรรค์ และเหล่าราชลูกเขยร่วมในพิธีการนี้ทุกองค์ แต่ว่าก็ละเว้นพระมุนีโลกเพียงแค่ท่านเดียว ที่มิได้ให้ร่วมพิธีการการเซ่นสรวงบูชาในคราวนี้ด้วย ด้านพระนางสตีเมื่อได้ฟังด้วยเหตุนั้น ก็เลยเข้าซักถามกับผู้เป็นพ่อถึงประเด็นนี้ ว่ามีเหตุอันใดก็เลยไม่ชวนพระสวามีของตนเองให้ร่วมพิธีการการเซ่นสรวงบูชา ข้างผู้เป็นบิดาแรกๆก็เอ๋ยถึงความประพฤติปฏิบัติ การแต่งกายของพระมุนีโลกว่าไม่เหมาะสมและก็พูดจาดูถูกดูแคลน ดูถูกเหยียดหยามพระมุนีโลกในทางที่เสียหาย ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวได้ปฏิบัติต่อหน้าต่อตาราชลูกเขยองค์อื่นๆที่มาร่วมในงานนี้ แต่ว่าพระนางสตีก็ขอร้องต่อพ่อ ให้พระสวามีของตัวเองได้ร่วมในพิธีการนี้ กระทั่งพระความถนัดประชากรบดีกำเนิดความเบื่อหน่ายเป็นยิ่งนัก ก็เลยกล่าวคำพูดด้วยเสียงอันดัง ต่อหน้าต่อตาผู้เข้ามาร่วมในพิธีการด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ไม่ชอบต่อพระมุนีโลกยิ่งนัก กระทั่งสุดท้ายพระนางสตีผู้มีความซื่อสัตย์ต่อสวามีของตัวเอง สุดที่จะทนถัดไปได้ ในถ้อยคำที่ฟังจากพระพ่อตัวเองที่กล่าวประจานพระมุนีต่อหน้าต่อตาคนอื่น
พระนางสตีก็เลยวินิจฉัยใจแสดงอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ส่องแสงเปลวอันรุนแรงจากข้างในกาย จนกระทั่งเผาตัวเองมอดไหม้ต่อหน้าต่อตาพระพ่อรวมทั้งผู้ร่วมพิธีการ กระทั่งสิ้นใจท้ายที่สุด (บางตำรากล่าวไว้ว่าพระนางสตีกระโจนเข้ากองไฟในพิธีการ)slot
ข้างพระศิวะในภาคพระมุนีโลก เมื่อได้ฟังคำเล่าบอกจาก พระฤษีทุ่งนารท (ฤาษีท้องนารอด) ในเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่กับพระมเหสีของท่านทรงเศร้าเสียใจเป็นที่สุด จากความเศร้าใจที่ทรงมีอยู่นั้น ก็เลยทรงดึงเส้นผมออกมาปอยหนึ่ง ก็เกิดขึ้นเป็นอสุรีร่างกายใหญ่มหึมา มีฤทธิ์บารมีล้นหลาม มีพันเศียร พันมือ สวมลูกประคำหัวกระโหลกรวมทั้งงู นามว่า ยักษ์วีรดี บางหนังสือกล่าววาอสุรีวีรประเสริฐนี้แยกส่วนโดยออกมาจากพระปากของพระศิวะ